คำสำคัญ Newspaper

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 1968 คู่รักวัยรุ่นคู่หนึ่งมาพักผ่อนใกล้ทะเลสาบเฮเลนา และถูกฆาตกรรมอย่างทารุณ นายตำรวจวัยหนุ่ม แมตต์ พาริช (จัสติน แชมเบอรส์) เข้ามาดูแลคดีนี้ เขาหมกมุ่นกับคดีมาก จนละเลยภรรยา ลอรา (โรบิน ทูนนีย์) และลูกชาย จอห์นนีย์ (โรรี คัลคิน) วันที่ 4 กรกฎาคม 1969 คู่รักอีกคู่หนึ่งถูกยิงที่สนามกอล์ฟในวาลเลโจ จากนั้นฆาตกรส่งจดหมายให้หนังสือพิมพ์ 3 ฉบับ โดยระบุปริศนาและคำสัญญาว่าจะก่อฆาตกรรมเพิ่มอีก ซึ่งเขาก็ทำดังว่าจริงๆ ตำรวจไม่สามารถจับกุมเขาได้ ในวันที่ 24 เมษายน 1978 เขาเขียนจดหมายหาหนังสือพิมพ์อีก กล่าวว่าเขากำลังรอให้เรื่องราวของเขาถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์

เรื่องราวของ 2 พันธมิตรที่ไม่น่าจะมาร่วมมือกันได้ระหว่าง แคทธารีน เกรแฮม (เมอริล สตรีพ) นักหนังสือพิมพ์หญิงคนแรกแห่งสำนักพิมพ์รายใหญ่ในอเมริกา The Washington Post กับบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ เบน แบรดลี่ (ทอม แฮงค์ส) พวกเขาต้องมาร่วมมือกันสนับสนุนให้ The New York Times เปิดเผย The Pentagon Papers ข้อมูลที่รั่วไหลออกมาจากนักวิเคราะห์ ดาเนียล เอลสเบิร์ก เพื่อที่จะเปิดโปงความลับสำคัญต่างๆ ที่ทางรัฐบาลปกปิดเอาไว้มากว่า 3 ทศวรรษ ใต้การปกครองของประธานาธิบดี 4 คน ทั้งสองต้องเอาชนะความแตกต่างของพวกเขาเอง ในขณะที่พวกเขาก็ต้องเอาอาชีพการงานและเสรีภาพของพวกเขาเข้าไปเสี่ยง เพื่อที่จะช่วยนำเอาความจริงที่ถูกฝังไว้เอาอย่างยาวนานออกมาเปิดเผย

เรื่องราวความรักความห่วงใยของหญิงชายข้างห้องที่มีฉากหลังเป็นฮ่องกงปี 1962 โดยทั้งคู่ต่างสงสัยว่าคู่ชีวิตที่ไม่ค่อยมีเวลาให้อาจกำลังนอกใจตัวเองอยู่

เล่าเรื่องของทีมนักข่าวจากหนังสือพิมพ์บอสตันโกลบพยายามสืบสวน เพื่อเปิดโปงการล่วงละเมิดเมิดทางเพศเด็กชายภายในศาสนจักรคาธอลิคท้องถิ่น จนเกิดเป็นแรงกระเพื่อมสั่นสะเทือนแปดเปื้อนไปทุกหย่อมหญ้าของศาสนาคริสต์ หนังรวมพลนักแสดงคุณภาพ อาทิ ไมเคิล คีตัน, มาร์ค รัฟฟาโร่, ราเชล แม็คอดัมส์ และ สแตนลีย์ ทุชชี่ กำกับโดย โทมัส แม็คคาร์ธี มือเขียนบทอนิเมชั่นรางวัลออสการ์เรื่อง Up "ปู่ซ่าบ้าพลัง" เมื่อปี 2009 ที่ผ่านมา

สร้างจากเรื่องจริงที่สะเทือนสหรัฐอเมริกา เมื่อ 2 นักข่าวแห่งวอชิงตัน โพสต์พบเงื่อนงำสำคัญในคดีวอเตอร์เกตที่เกี่ยวกับชาย 5 คนงัดแงะเข้าไปในห้องทำงานของสำนักงานใหญ่คณะกรรมาธิการแห่งชาติ พรรคเดโมเครต ด้วยจุดประสงค์เพื่อจะเอาเครื่องดักฟังไปติดตั้ง ทำให้การสืบสวนเพื่อหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังเริ่มต้นขึ้น และ 2 นักข่าวอย่าง บ๊อบ วูดเวิร์ด กับ คาร์ล เบิร์นสตีน ก็เริ่มเพิ่มเงื่อนงำโดยมีชายลึกลับที่ใช้นามแฝงว่า "ดีพโทรต" ป้อนข้อมูลให้ อันทำให้ทั้ง 2 ตามรอย (ท่ามกลางอันตราย เพราะมีคนบางกลุ่มไม่ต้องการให้พวกเขารู้มากเกินไป) จนพบว่าผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้อาจเป็นบุคคลสำคัญระดับประเทศอย่างริชาร์ด นิกสัน ประธานาธิบดีในขณะนั้นของอเมริกา

คล้าก เกเบิ้ล และ คลอเดตต์ โคลเบิร์ต แท็กทีมกันการสร้างเสียงหัวเราะ จากบทบาทของคู่รักที่ไม่ลงรอยกกัน ในหนังตลกสุดคลาสสิกปี 1934 เรื่องนี้ เอลลี่ แอนดรูส์ (โคลเบิร์ต) คุณหนูผู้เอาแต่ใจ หนีจากบิดาที่เป็นมหาเศรษฐี (วอลเตอร์ คอลโนลลี่) เพราะเขาขัดขวางเธอไม่ให้แต่งงานกับหนุ่มเจ้าชู้ที่ทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัย ระหว่างทางไปนิวยอร์ก เอลลี่ได้เข้าไปพัวพันกับนักหนังสือพิมพ์ตกงาน ปีเตอร์ วาร์น (เกเบิ้ล) เมื่อรถโดยสารเกิดขัดข้องกลางทาง ทั้งสองที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน จึงต้องออกผจญภัยแบบบ้าระห่ำด้วยการโบกรถ ปีเตอร์หวังจะเปลี่ยนเรื่องราวความโชคร้ายของพวกเขาให้กลายเป็นบทความเพื่อหางานทำ แต่ความยุ่งยากก็ดันมาเกิดขึ้นอีก เมื่อทายาทสาวที่หนีออกจากบ้านกับนักข่าวไส้แห้ง เกิดตกหลุมรักกันขึ้นมา อิท แฮปเปนด์ วัน ไนท์ กำกับโดยแฟรงค์ คาปรา และนับเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ได้รับรางวัลออสการ์ในสาขาสำคัญไปถึงห้าสาขา นั่นคือภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

หลังจากทำหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวมาถึง 27 ครั้ง เจนต้องรับมือกับหน้าที่นี้อีกครั้งกับงานของน้องสาวของตนเอง แต่มันทำใจลำบากกว่าครั้งก่อนๆเเมื่อเจ้าบ่าวคือเชายที่เจนแอบรักมานาน โชคดีที่ได้นักข่าวหนุ่มหล่อคอลัมนิสต์ผู้เขียนเรื่องงานแต่งงานมาช่วยทำให้เจนได้ค้นพบความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง

ในละครย้อนยุคของเมอร์เชินต์ไอวอรี่เรื่องนี้ หัวหน้าคนรับใช้ผู้ซื่อสัตย์อุทิศตนดูแลบ้านให้ท่านลอร์ดโดยไม่สนใจการฝักใฝ่ในลัทธินาซีของท่าน

ดัดแปลงจากมินิซีรี่ส์เรื่องดังของบี บีซี มาเป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญฟอร์มดี กับเรื่องราวของนักข่าวหนังสือพิมพ์ที่ลงมือสืบสวนคดีฆาตกรรมหญิงสาว ที่มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับวุฒิสมาชิกสภาคองเกรสชื่อดังรายหนึ่งด้วยตัวของเขาเอง

เรื่องราวความสนุกสนานสลับกับเรื่องปวดใจของพี่น้องสองสาวที่ไม่มีอะไรเหมือนกันเลยนอกจากเท้าขนาด 8 ½ แม็กกี้และโรส เฟลเลอร์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดต่อกัน และต่างกันคนละขั้วในเรื่องของรสนิยม เป้าหมาย และลักษณะส่วนตัว

ดัดแปลงมาจากหนังสือขายดีในชื่อเดียวกันของ "ฮันเตอร์ เอส. ธอมป์สัน" (Hunter S. Thompson) กับเรื่องราวของ "พอล แคมป์" นักข่าวอิสระที่ค้นพบจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต หลังจากที่ได้ไปเขียนข่าวในแถมแคริบเบียน แคมป์ ก็ต้องเจอกับเรื่องท้าทายชีวิตมากมาย ทั้งการหนีเอาชีวิตรอด จากกลุ่มคนที่กระทำสิ่งผิดกฎหมายที่จ้องจะทำร้ายหมายเอาชีวิตเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ จอห์นนี่ เด็ปป์ มารับบทเป็น "พอล แคมป์" มาประชันบทบาทร่วมกับดาราสาวสวย

ดรูว์ แบร์รี่มอร์ และ จัสติน ลอง คู่รักในชีวิตจริงมาสวมบทคู่รัก เอริน กับ การ์เร็ตต์ หนุ่มสาวที่พยายามรักษาความรักของพวกเขาเอาไว้และพยายามหาทางเจอกันให้ได้ แม้ต้องแยกไปอยู่คนละฟากของประเทศอย่าง นิวยอร์ค และ ซานฟรานซิสโก

เรื่องราวของตำรวจนักสืบแฟรงก์ เคลเลอร์ ชายที่เป็นคนบ้างาน เขาเป็นตำรวจที่เข้าร่วมกับกองกำลังนักสืบเชอร์แมน เพื่อติดตามฆาตกรต่อเนื่องที่แปลกประหลาด และนั้นก็ทำให้เขาพบผู้ต้องสงสัยที่สวยงาม เรียกได้ว่าเห็นแล้วก็หลงรักอย่าง เอลเลน นักร้องประสานเสียง และนั้นก็ทำให้แฟรงก์ เคลเลอร์เชื่อในความบริสุทธิ์ของเอลเลน เคลเลอร์เริ่มรู้สึกหลงรักเอลเลนมากขึ้น ถึงแม้จะมีหลักฐานเชื่อมโยงอย่างหนักว่าเธอในอาจจะมีส่วนรู้เห็นในการการฆาตกรรมครั้งนี้

Told from the points of view of both the Baltimore homicide and narcotics detectives and their targets, the series captures a universe in which the national war on drugs has become a permanent, self-sustaining bureaucracy, and distinctions between good and evil are routinely obliterated.

A much more lavish version of the popular Superman television series which had first aired forty years earlier, Lois & Clark focused more on the Man of Steel's early adult years in Metropolis. With the unknowing help of Lois Lane, Clark Kent created Superman there in Metropolis after finding work at the world-famous Daily Planet newspaper, where he meets fellow reporter Lois Lane.

Gary Hobson thinks he may even be losing his mind when tomorrow's newspaper mysteriously arrives today giving him a disconcerting look into the future. What will he do with tomorrow's news?

A story about people who succeed in life thanks to nothing but their own efforts. Maria do Carmo is the main character of the telenovela; a mother of five who struggle to be successful in life, but whose most important will be recovering the love of her daughter who was kidnapped when she was just months old.

The murder of a young boy in a small coastal town brings a media frenzy, which threatens to tear the community apart.

The chronicles of the rocky coexistence of midwestern American Larry Appleton and his distant cousin from eastern Mediterranean Europe, Balki Bartokomous.

The adventures of a newspaper reporter covering the world of cops and gangsters in 1920s Chicago.

Jack the Ripper is a 1988 two-part television film/miniseries portraying a fictionalized account of the hunt for Jack the Ripper, the unidentified serial killer responsible for the Whitechapel murders of 1888. The series coincided with the 100th anniversary of the murders.

A major newspaper has informally decided to employ a female university student. However, shock ripples within the newspaper because of a weekly magazine’s scoop that she is the daughter of the criminal in a serious case. This was the kidnapping of a newborn baby at a big hospital 20 years ago. The criminal demanded a ransom from the director of the hospital instead of the parents. But after the criminal had the large sum of money in hand, he died in an accident while being pursued by the police. The baby was never found. Kaji Hidekazu, a former hotshot journalist who has become deadwood in the wake of an incident, is ordered by the newspaper to re-investigate the kidnapping case. He finds out the shocking, tragic truth which had been kept under wraps.

Follow both the professional and personal lives of reporters working for The Express, a daily Montréal Newspaper.

Deadline is a 1959-1961 American television drama series that re-enacted famous newspaper stories from the past. Hosted and narrated by Paul Stewart, the syndicated series was produced by Arnold Perl. Guest stars included Peter Falk, Diane Ladd, Robert Lansing, and George Maharis. Thirty-nine 30-minute episodes were produced.

Hot metal is a London Weekend Television sitcom about the British Newspaper industry broadcast between 1986 and 1988. The daily crucible, the dullest newspaper in Fleet Street, is suddenly taken over by media magnate Terence "Twiggy" Rathbone. Its editor Harry Stringer is 'promoted' to managing editor, and is replaced in his old job by Russell Spam. Spam then takes the paper shooting downmarket and turns the crucible into a sensation seeking scandal rag, very much in the style of the British tabloids of the 1980s. He is helped along by his ace gutter journalist, Greg Kettle, who intimidates his tabloid victims by claiming to be "a representative of Her Majesty's press" and produces stories such as accusing a vicar of being a werewolf. Throughout the first series, a running plot involved cub reporter Bill Tytla gradually uncovering an actual newsworthy story that went to the very heart of government. Written by David Renwick and Andrew Marshall, it is very much a continuation in style from their previous sitcom Whoops Apocalypse!. It was produced by Humphrey Barclay.

A team of young journalists attempt to free itself from the constraints of established rules and tell its readers the truth.

Animated Canadian tales of the Great Depression as told by the staff of The Toronto Star.

Set in a struggling Irish language newspaper in Belfast, the series is built around the character of Rob Cullan. a journalist who has left a high flying job in an English newspaper under a cloud. He is persuaded to return to the community he grew up in by the wily newspaper proprietor Diarmuid Black to help rescue his ailing publication.