เดอะ คิง 2019
ฮัล ต้องเปลี่ยนจากการเป็นองค์ชายสำมะเลเทเมาเอาแต่ใจมาเป็นกษัตริย์นักรบเมื่อเขาต้องรับมือกับศัตรูทั้งนอกและในท่ามกลางช่วงเวลาแห่งสงครามการต่อสู้เพื่ออังกฤษ
ฮัล ต้องเปลี่ยนจากการเป็นองค์ชายสำมะเลเทเมาเอาแต่ใจมาเป็นกษัตริย์นักรบเมื่อเขาต้องรับมือกับศัตรูทั้งนอกและในท่ามกลางช่วงเวลาแห่งสงครามการต่อสู้เพื่ออังกฤษ
จากเรื่องจริงของกษัตริย์จอร์จที่ 6 แห่งราชวงศ์อังกฤษที่มีปัญหาในการพูดติดอ่าง จำต้องขึ้นครองราชอย่างกระทันหันในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังก้าวเข้าสู่สงคราม และประชาชนกำลังต้องการผู้นำประเทศมากที่สุด ราชินีอลิซาเบธจึงนำนักบำบัดอาการบกพร่องด้านการพูด ไลโอเนล ลอจ มารักษาการพูดติดอ่างของพระสวามี ซึ่งเป็นการรักษาที่หลุดจากแบบแผนการรักษาทั่วไปที่นำไปสู่มิตรภาพที่แน่นแฟ้นของทั้งคู่ และทำให้กษัตริย์จอร์จที่ 6 ทรงขึ้นครองบัลลังก์เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ผู้ใช้สุ้มเสียงของพระองค์นำประเทศชาติก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งสงคราม
เรื่องราว 2 ปีสุดท้ายก่อนสิ้นพระชนม์ จากชีวิตจริงของ เจ้าหญิงไดอาน่า (นาโอมิ วัตส์) ทั้งในแง่ของพระราชกรณียกิจต่าง ๆ รวมทั้งในแง่ของความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ นายแพทย์ฮัสนัต ข่าน (นาวีน แอนดรูว์ส) และ โดดี อัลฟาเย็ด (แคส อันวาร์) ซึ่งจะทำให้ทุกคนได้เห็นถึงความพยายามในการตามหาความสุขของเจ้าหญิงที่มีคนรักมากที่สุดในโลก รวมทั้งยังเปิดเผยความลับในชีวิตจริงของเจ้าหญิงผู้ล่วงลับพระองค์นี้
สร้างจากเรื่องจริงของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ครั้งยังทรงเป็นเจ้าหญิง กับพระขนิษฐาของพระองค์ เจ้าหญิงมาร์กาเรต เคาน์เตสแห่งสโนว์ดอน ซึ่งถูกปิดเป็นความลับอยู่นาน เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1945 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ยุติลง ประเทศอังกฤษมีการจัดงานเฉลิมฉลองหรือที่รู้จักกันว่า VE Day (Victory in Europe Day หรือก็คือ วันแห่งชัยชนะในทวีปยุโรป) เจ้าหญิงอลิซาเบธ (ซาราห์ กาดอน) และ เจ้าหญิงมาร์กาเร็ต (เบล พาวลีย์) ทรงขออนุญาตพระราชบิดา-พระราชมารดา (รูเพิร์ท เอเวอร์เร็ตต์ และ เอมิลี่ วัตสัน) เพื่อที่จะออกไปร่วมเฉลิมฉลองที่ท้องถนนร่วมกับสามัญชน ค่ำคืนนั้นจึงเหมือนเป็นการผจญภัยเล็กๆของพระองค์อย่างสามัญชนธรรมดาๆ
ศึกษาประวัติของเจ้าชายแฮรีและเมแกน มาร์เคิล ตั้งแต่วินาทีที่ทั้งคู่พบกันหลังจากถูกเพื่อนล่อลวง จนกระทั่งเริ่มจีบกันเมื่อทั้งคู่สามารถเก็บความรักเอาไว้เป็นความลับได้ และท้ายที่สุดคือความสนใจอย่างเข้มข้นของสื่อทั่วโลกที่มีต่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่ และชีวิตของเมแกนในฐานะนักแสดงชาวอเมริกันที่หย่าร้างกัน
เรื่องราวสมเด็จพระราชินีแอนน์ ผู้ปกครองประเทศที่มีจิตไม่ค่อยปกตินัก และเลดี้ซาราห์สหายคนสนิท ด้วยการมาถึงของสาวใช้คนใหม่ที่มีแววว่าจะทำให้ราชินีพึงพอใจเธอเป็นอย่างมาก จึงเป็นเหตุให้มิตรภาพของเลดี้ซารากับราชินีมีอันต้องสั่นคลอน
เสมียนจากอินเดียผู้ใสซื่อและร่าเริงเดินทางมาที่อังกฤษเพื่อถวายของขวัญแด่สมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย ก่อนจะสร้างมิตรภาพอันน่าเหลือเชื่อกับประมุขหญิงผู้เดียวดาย
เมื่อข่าวการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอาน่า ผู้หญิงที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก แพร่กระจายออกไปในหมู่ประชาชนชาวอังกฤษที่ทั้งช็อคและทำใจไม่ได้ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 และสมาชิกในราชวงศ์ กลับเก็บตัวเงียบอยู่หลังกำแพงปราสาทบัลโมรัล โดยมิได้หยั่งรู้ถึงปฏิกิริยาที่ประชาชนมีต่อเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ แต่สำหรับโทนี่ แบลร์ นายกรัฐมนตรีที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งและได้รับความนิยมอย่างสูง กลับคำนึงถึงประชาชนที่ต้องการหลักประกันและกำลังใจจากผู้นำของพวกเขาเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด
เรื่องราวของ Sir Thomas More ผู้ซึ่งไม่ว่าอะไรจะบังเกิดขึ้น ยังคงยึดถือเชื่อมั่นในศรัทธาคำสอนพระเจ้า แม้ต้องกลายเป็นปรปักษ์ขัดแย้ง King Henry VIII (1509-1547) ที่ต้องการหย่าร้างราชินี และต่อมาสมรสใหม่ถึง 6 ครั้งครา
บอกเล่าถึงชีวิตอันแสนวุ่นวายของสาวเจ้าเสน่ห์ แมรี่ สจ๊วต (เซียร์ชา โรแนน) ราชินีแห่งฝรั่งเศสวัย 16 ปี ที่กลายเป็นแม่ม่ายในวัย 18 ปี แมรี่ต่อต้านแรงกดดันที่ต้องการจะให้เธอแต่งงานใหม่อีกครั้ง ด้วยการเลือกที่จะกลับไปยังบ้านเกิดที่สกอตแลนด์ เพื่อทวงคืนราชบัลลังก์ที่เป็นของเธอโดยชอบธรรมแทน แต่ทั้งประเทศสกอตแลนด์และอังกฤษต่างตกอยู่ภายใต้อำนาจกฏข้อบังคับของ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 (มาร์โก้ ร็อบบี้) ราชินีสาวแต่ละคนต่างก็พากันเชื่อฟังพี่สาวของเธอด้วยความกลัว และอำนาจดึงดูดใจ การต่อสู้ทั้งเรื่องของอิทธิพลและความรัก รวมไปถึงเรื่องของหญิงสาวที่ต้องมาสำเร็จราชการแผ่นดินในโลกของผู้ชาย ทั้งสองต้องตัดสินใจว่าจะเล่นเกมส์แห่งการแต่งงานหรือเกมส์แห่งอิสรภาพนี้ยังไง แน่นอนว่าความดื้อดึงที่จะเป็นผู้คุมกฏเกณฑ์มันมีมากยิ่งกว่าการเป็นแค่หุ่นเชิดที่ไร้อำนาจ แมรี่จึงอ้างสิทธิ์ของเธอในการครอบครองราชบัลลังก์แห่งอังกฤษ ซึ่งมันเป็นการคุกคามอำนาจกษัตริย์ของเอลิซาเบธ ทั้งการทรยศหักหลัง การก่อกบฎ และการสมรู้ร่วมคิดภายในวังนั้นเป็นภัยต่อราชบัลลังก์ของทั้งคู่ รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงแนวทางของประวัติศาสตร์ด้วย
วิกตอเรียซึ่งเป็นทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงคนเดียวของกษัตริย์วิลเลียมแห่งอังกฤษ เจ้าหญิงวัยรุ่นต้องเข้าไปพัวพันกับการวางแผนทางการเมืองของครอบครัวตัวเอง แม่ของวิกตอเรียต้องการให้เธอลงนามในคำสั่งให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในขณะที่ลุงชาวเบลเยียมของเธอวางแผนให้กษัตริย์ในอนาคตแต่งงานกับเจ้าชายอัลเบิร์ต ชายผู้จะเป็นรักแท้ของเธอ
พระเจ้าจอร์จที่สาม กษัตริย์ที่ทรงเมตตาแห่งอังกฤษเกิดเสียสติ และเจ้าชายแห่งเวลส์ก็พร้อมจะฉวยโอกาสจากเหตุนี้ เฮเลน เมียร์เรนและเอียน โฮล์มได้ร่วมรับบทในเรื่องราวสุดตื่นเต้นที่เต็มไปด้วยกลอุบายในราชวงศ์
ภาพยนตร์อิงชีวประวัติว่าด้วยเรื่องราวของ เจ้าหญิงไดอาน่า (คริสเตน สจ๊วต) เจ้าหญิงผู้งดงามแห่งความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ที่มีการนำช่วงเวลาชีวิตสำคัญ ที่มีทั้งความสุขและโศกเศร้ามาถ่ายทอดในรูปแบบภาพยนตร์ โดยจะมุ่งเน้นไปที่การใช้ชีวิตในช่วงวันหยุดกับเหล่าสมาชิกแห่งราชวงศ์อังกฤษท่ามกลางเทศกาลคริสต์มาส ก่อนจะอภิเษกสมรสกับ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ (แจ็ค ฟาร์ธิง)
The gripping, decades-spanning inside story of Her Majesty Queen Elizabeth II and the Prime Ministers who shaped Britain's post-war destiny. The Crown tells the inside story of two of the most famous addresses in the world – Buckingham Palace and 10 Downing Street – and the intrigues, love lives and machinations behind the great events that shaped the second half of the 20th century. Two houses, two courts, one Crown.
Following the fact-based historical book of the same name, this drama follows the rise of Cromwell as he becomes Henry the VIII's closest advisor. England in the 1520s is a heartbeat from disaster. If the King dies without a male heir, the country could be destroyed by civil war. Henry VIII wants to annul his marriage of twenty years and marry Anne Boleyn. The Pope and most of Europe oppose him. Into this impasse steps Thomas Cromwell: a wholly original man, a charmer, and a bully, both idealist and opportunist, astute in reading people, and implacable in his ambition. But Henry is volatile: one day tender, one day murderous. Cromwell helps him break the opposition, but what will be the price of his triumph?
A linking together of Shakespeare's history plays chronicling the rise and fall of monarchs over the 86 years between Richard II and Richard III.
In this biting animated satire, seven-year-old Prince George – youngest heir to the British throne – spills all the royal “tea” on Buckingham Palace’s residents and staff.
A blood-soaked, medieval epic that tells the story of Wilkin Brattle, a 14th century warrior, whose life is forever changed when a divine messenger beseeches him to lay down his sword and lead the life of another man: a journeyman executioner. Set in northern Wales during a time rife with rebellion and political upheaval, Wilkin must walk a tight rope between protecting his true identity while also serving a mysterious destiny. Guided by Annora, a mystical healer whose seeming omniscience keeps Wilkin under her sway; manipulated by Milus Corbett, a devious Chamberlain with grand political aspirations; and driven by a deepening connection with the Baroness Lady Love, Wilkin struggles to navigate political, emotional and supernal pitfalls in his quest to understand his greater purpose.
The Virgin Queen explores the full sweep of Elizabeth's life: from her days of fear as a potential victim of her sister's terror; through her great love affair with Robert Dudley; into her years of triumph over the Armada; and finally her old age and her last, enigmatic relationship with her young protégé, the Earl of Essex.
The life of Henry VIII of England from the disintegration of his first marriage to an aging Spanish princess until his death following a stroke in 1547, by which time he had married for the sixth time.
Spitting Image is an award winning British satirical puppet show, created by Peter Fluck, Roger Law and Martin Lambie-Nairn. The series was produced by Spitting Image Productions for Central Independent Television over 18 series which aired on the ITV from 1984 to 1996. The series was nominated and won numerous awards during its run including 10 BAFTA Awards, including one for editing in 1989, and even won two Emmy Awards in 1985 and 1986 in the Popular Arts Category. The series featured puppet caricatures of celebrities famous during the 1980s and 1990s, including British Prime Minister Margaret Thatcher and fellow Tory politicians, American president Ronald Reagan, and the British Royal Family. The Series was the first to caricature the Queen mother.
This historical mini-series documents the reign of Elizabeth I with each episode focusing on one dramatic period in the lengthy reign of the Virgin Queen, including her ascension to the throne, her various marital intrigues, her problems with her cousin Mary, Queen of Scots, and the threatened invasion of the Spanish Armada.
Francis Urquhart's survival at the top is threatened by the new king's populist agenda.
The Queen was a 2009 British drama-documentary showing Queen Elizabeth II at different points during her life. Broadcast on Channel 4 over five consecutive nights from 29 November 2009, the Queen was portrayed by a different actress in each episode. The Queen was portrayed by Emilia Fox, Samantha Bond, Susan Jameson, Barbara Flynn and Diana Quick. Katie McGrath played Princess Margaret in the first episode and Lesley Manville played Margaret Thatcher in the third episode. The series was co-funded by the American Broadcasting Company, the network which aired the series in the US. This reunited Emilia Fox and Katie McGrath who had played sisters in BBC One's Merlin.
From their courtship to their exit from royal life, Harry and Meghan share their complex journey in their own words in this docuseries.
Princess Georgiana is the black sheep of a fictional British Royal Family. A PR disaster, she's spent her spoilt, party-girl life plastered over the tabloids. On the back of her latest scandal her mother, the Queen, makes the unprecedented move of abdicating her Australian throne in favour of her daughter. It is hoped that giving her some real responsibility will finally be the making of her – and if it isn't, at least shipping her off keeps her 10,000 miles away from London.
Princess Diana's life and legacy is explored through interviews with those who knew her best, as well as the world's leading experts on her.
Drawing on newly available evidence, this epic series explores the Windsor dynasty's gripping family saga, providing fresh insights into how our royal family have survived four generations of crisis.
Historian Lucy Worsley debunks popular myths and royal as well as anti-royal propaganda about key events from British royal history including the English Reformation, the attack of the Spanish Armada and Queen Anne's forgotten legacy.
Patricia Routledge gives a career-best performance as Queen Victoria in this 1964 series of plays based on the celebrated collection of dramas by playwright Laurence Housman. Self-willed, obstinate, imperious and passionate... a now-familiar description of one of history's longest-serving female monarchs – but Housman's satirical tribute marked a decisive break with the tradition of the uncritical historical portrait. A Broadway hit deemed too disrespectful for public performance in Britain until the late 1930s, Victoria Regina is a frank portrayal of an extraordinarily complex woman, tracing her development from royal teenager to inconsolable widow at the helm of a vast empire, with all her contradictions, prejudices and unconstitutional behavior.
Part documentary, part historical drama, this series follows the fortunes of the different members of the Boleyn family, ultimately made notorious for daughter Anne’s marriage to Henry VIII and execution.
The Devil's Crown was a BBC limited series which dramatised the reigns of three medieval Kings of England: Henry II and his sons Richard the Lionheart and John.
Lavish two-part dramatisation of the passionate love story that was Queen Victoria and Prince Albert's marriage. Two-part drama chronicling the relationship between Queen Victoria and her consort, Prince Albert.